พฤติกรรมเชิงจริยธรรมด้านการให้บริการของคนขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อพฤติกรรมเชิงจริยธรรมด้านการให้บริการของคนขับ แท็กซี่ในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งเพื่อดูความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจกับพฤติกรรมเชิง จริยธรรมด้านการให้บริการของคนขับแท็กซี่ สภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของคนขับแท็กซี่และแนวคิดเกี่ยวกับปัญหา จริยธรรมด้านการให้บริการของคนขับแท็กซี่ ซึ่งทำการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบคู่ขนาน กล่าวคือ ศึกษาทั้งใน แง่มุมของผู้รับบริการ และในแง่ของผู้ให้บริการ โดยใช้แบบสอบถามจำนวน 400 ชุดเพื่อศึกษาความคิดเห็นด้าน พฤติกรรมเชิงจริยธรรมด้านการให้บริการของคนขับแท็กซี่ และใช้เทคนิคการสัมภาษณ์ในการศึกษาถึงความ คิดเห็น แง่มุมความเป็นอยู่ สภาพเศรษฐกิจ ของผู้ให้บริการ คือ คนขับแท็กซี่จำนวน 43 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิง คุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหาสร้างข้อสรุป การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยการใช้โปรแกรมสำเร็จรูป สถิติที่ ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าความถี่ ผลวิจัยวิเคราะห์ระดับพฤติกรรมเชิงจริยธรรมด้านการให้บริการของคนขับแท็กซี่ใน กรุงเทพมหานคร จากการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาจากมุมมอง 2 ด้านหากัน คือ ในด้านของผู้ให้บริการประเมิน ตนเอง และในด้านของผู้รับบริการประเมินผู้ให้บริการ โดยประเมินในด้านกาย ด้านวาจา และด้านจิตใจ จาก การศึกษาทำให้ทราบว่า จริยธรรมประกอบด้วยหลักการอย่างง่าย คือ การทำดี ละเว้นความชั่ว และการทำจิตใจให้ ผ่องใส เช่นที่พระพุทธเจ้าได้แสดงพระธรรมเทศนาในโอวาทปาฏิโมกข์ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมในการ แสดงออกกับผู้โดยสารได้ดังต่อไปนี้ น้ำเสียง สีหน้า การแสดงออกของผู้รับบริการ การดื่มเหล้า การจราจรที่เป็น ปัญหา ความเครียดจากปัญหาหลายๆ ด้าน เช่น เครียดเรื่องปัญหาครอบครัว เครียดค่าแก๊สที่แพงขึ้น ค่าครองชีพที่ สูงขึ้น การรอต่อคิวเพื่อเติมแก๊ส ปัจจัยด้านบวกจากการเข้าวัดสม่ำเสมอช่วยให้แสดงออกต่อผู้โดยสาร ในกรณีที่ ผู้ขับแท็กซี่เป็นคนต่างจังหวัด การกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทำให้มีเวลามากขึ้น ได้พักผ่อน การพาพ่อแม่ไปวัด หรือ การไปร่วมกิจกรรมที่วัดถือเป็นเรื่องที่กระทำ เช่น การกลับบ้านช่วงสาร์ทเดือนสิบของชาวภาคใต้ การทอดกฐิน ทอดผ้าป่าของหมู่บ้าน เป็นต้น