Please use this identifier to cite or link to this item:
http://hdl.handle.net/123456789/1735
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | วงจันทร์, นุ่นคง | - |
dc.contributor.author | Nunkong, Wongjun | - |
dc.date.accessioned | 2022-03-29T07:16:32Z | - |
dc.date.available | 2022-03-29T07:16:32Z | - |
dc.date.issued | 2020 | - |
dc.identifier.uri | http://cms.dru.ac.th/jspui/handle/123456789/1735 | - |
dc.description.abstract | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมในการทำวัสดุปลูกจากกาบกล้วยและขี้เลื่อย ทำการศึกษาคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของวัสดุปลูกทั้ง 4 อัตราส่วนดังนี้ 1) 100:0 2) 75:25 3) 50:50 และ 4) 25:75 โดยน้ำหนัก ใช้ปริมาณวัสดุประสานกาวแป้งเปียกคงที่ และทำการทดลองในห้องปฏิบัติการของสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ผลการศึกษาทางกายภาพ พบว่า ทุกอัตราส่วนสามารถขึ้นรูปเป็นวัสดุปลูกได้ และมีน้ำหนักแห้งเฉลี่ยอยู่ในช่วง 121.10-130.08 กรัมต่อก้อน โดยมีค่าความหนาแน่นรวมมีค่าเฉลี่ยใกล้เคียงกันอยู่ในช่วง 0.27–0.29 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร (ก่อนการรดน้ำ) ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ค่าการดูดซึมน้ำในอัตราส่วนที่ 4 มีค่าสูงที่สุด เฉลี่ยร้อยละ 299.98 และอัตราส่วนที่ 2 มีค่าน้อยที่สุด เฉลี่ยร้อยละ 217.40 โดยไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติกับอัตราส่วนที่ 1 (ร้อยละ 254.99) และ 3 (ร้อยละ 252.98) แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดูดซึมน้ำและอุ้มน้ำของตัววัสดุปลูกได้ดี และค่าการสลายตัวในน้ำในอัตราส่วนที่ 1 สูงที่สุด เฉลี่ยร้อยละ 16.75 และอัตราส่วนที่ 3 เฉลี่ยร้อยละ 14.56 ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ สำหรับผลการศึกษาทางเคมี พบว่า ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ของวัสดุปลูกอยู่ในช่วงที่เหมาะสมถึงช่วงความเป็นกรดจัด โดยค่า pH ที่เหมาะสมกับพืช คือ อัตราส่วนที่ 4 (6.38) อัตราส่วนที่ 3 (5.89) และ 2 (5.71) มีค่าอยู่ในช่วงกรดปานกลาง ซึ่งมีความเป็นกรดเกินไปสำหรับพืชบางชนิด และอัตราส่วนที่ 1 (4.78) มีค่าความเป็นกรดจัด จะมีพืชบางชนิดเท่านั้นที่ทนได้ จากค่าการนำไฟฟ้า (EC) ของวัสดุปลูกส่วนใหญ่มีค่าความเค็มสูง โดยเฉพาะอัตราส่วนที่ประกอบด้วยกาบกล้วยเพียงชนิดเดียวมีค่า 7.23 dS/m และเมื่อปริมาณกาบกล้วยลดลง ค่า EC จะมีค่าลดลงตามอัตราส่วนที่ 2 3 และ 4 (4.45, 2.67, 1.70 dS/m) ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบปริมาณธาตุไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) พบว่า ปริมาณธาตุ K พบมากที่สุดในทุกอัตราส่วน อยู่ในช่วงร้อยละ 0.99-4.93 เนื่องจากในทุกอัตราส่วนมีองค์ประกอบของกาบกล้วยซึ่งเป็นแหล่งของธาตุชนิดนี้ และอัตราส่วนที่ 1 มีธาตุอาหารสูงกว่าอัตราส่วนอื่นๆ ส่วนธาตุ N มีค่าอยู่ในช่วงร้อยละ 0.09-0.46 และธาตุ P อยู่ในช่วงร้อยละ 0.05-0.35 เท่านั้น ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติต่างๆ แล้ว อัตราส่วนที่ 3 จึงมีความเหมาะสมที่สุดในการนำไปใช้เป็นวัสดุปลูก เนื่องจากมีค่า pH และ EC ไม่สูงจนเป็นอันตรายต่อพืชเกินไป และสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | Dhonburi Rajabhat University. Research and Development Institute. | en_US |
dc.subject | กาบกล้วย | en_US |
dc.subject | ขี้เลื่อย | en_US |
dc.subject | มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี | en_US |
dc.title | การศึกษาวัสดุปลูกจากกาบกล้วยและขี้เลื่อย | en_US |
dc.title.alternative | Study on substrate culture from leaf sheaf of banana tree and sawdust | en_US |
dc.type | Research | en_US |
Appears in Collections: | Research Dhonburi Rajabhat University - งานวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Title.pdf | ปก | 145.02 kB | Adobe PDF | View/Open |
Abstract.pdf | บทคัดย่อ | 275.9 kB | Adobe PDF | View/Open |
Acknowledgement.pdf | กิตติกรรมประกาศ | 154.12 kB | Adobe PDF | View/Open |
Table of content.pdf | สารบัญ | 251.26 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 1.pdf | บทที่ 1 | 411.72 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 2.pdf | บทที่ 2 | 935.65 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 3.pdf | บทที่ 3 | 502.05 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 4.pdf | บทที่ 4 | 732.05 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 5.pdf | บทที่ 5 | 289.72 kB | Adobe PDF | View/Open |
Bib.pdf | บรรณานุกรม | 352.21 kB | Adobe PDF | View/Open |
Appendix.pdf | ภาคผนวก | 839.52 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.