Please use this identifier to cite or link to this item:
http://hdl.handle.net/123456789/1343
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | ประพันธ์, สหพัฒนา | - |
dc.contributor.author | Sahapatthana, Prapan | - |
dc.date.accessioned | 2019-03-08T07:33:57Z | - |
dc.date.available | 2019-03-08T07:33:57Z | - |
dc.date.issued | 2015 | - |
dc.identifier.uri | http://cms.dru.ac.th/jspui/handle/123456789/1343 | - |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1).เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 2).เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลท่มีผลต่อการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี 3).เพื่อเสนอแนวทางที่เหมาะสมในการนำหลักอริยสัจ 4 มาใช้เพื่อการพัฒนาด้านการเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีทั้ง 4 คณะรวมกันจำนวน 384 คน โดยวิธีสุ่มแบบชั้นภูมิตามคณะจากประชากรนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีทั้งสิ้น 9,186 โดยใช้แบบสอบถามถึงการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจจำนวน 4 หมวดรวมทั้งสิ้น 40 ข้อ โดยใช้ค่าสถิติคือ ค่าเฉลี่ย(Mean) ค่าเบี่ยงเบน (SD) ค่าสถิติ t-test และการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และใช้แบบสัมภาษณ์เพื่อเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากผู้บริหารมหาวิทยาลัย ครูผู้สอน และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ผลการวิจัยพบว่า 1).นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรีมีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.57) โดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่ 0.55 นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีมีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ในด้านการรู้จักทุกข์สูงที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 3.68) ซึ่งอยู่ในระดับมาก และมีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ในด้านการรู้จักสมุทัยต่ำสุด (ค่าเฉลี่ย = 3.45) ซึ่งถือว่ามีการปฏิบัติตนในระดับปานกลาง ในขณะเดียวกันนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีมีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ในด้านการรู้จักนิโรธในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.60) และมีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ในด้านการรู้จักมรรคในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 3.57) 2).สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 แล้วพบว่านักศึกษาที่มีชั้นปี ๕ระ ระดับผลการศึกษาที่แตกต่างกันมีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ที่แตกต่างกัน แต่นักศึกษาที่มีเพศ ระดับรายได้และระดับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่แตกต่างกันไม่มีระดับการปฏิบัติตนตามหลักอริยสัจ 4 ที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3).อาจารย์ผู้สอนในรายวิชาต่างๆควรมีแนวทางในการสอนที่เน้นกรอบแนวคิดแบบมีคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุและผลและกำหนดชัดเจนในกรอบ TQF ของหลักสูตรการสอนควรมีรูปแบบการศึกษาแบบกรณีศึกษาที่ยกปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันนักศึกษาและวิเคราะห์ให้เห็นถึงสาเหตุที่มาพร้อมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นอย่างสมเหตุผลที่ให้นักศึกษาสามารถนำไปใช้ในการเรียนได้จริง การจัดการด้านกิจการนักศึกษาต้องให้นักศึกษาได้ศึกษาถึงปัญหาต่างๆในสังคมปัจจุบันที่นักศึกษาต้องพบในชีวิตประจำวันจริงและจัดกิจกรรมให้นักศึกษาได้คิดร่วมกันในการวิเคราะห์หาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหานั้นอย่างชาญฉลาด | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | Dhonburi Rajabhat University. Office of Academic Resources And Information Technology. | en_US |
dc.subject | อริยสัจ 4 | en_US |
dc.subject | พัฒนาการด้านการเรียน | en_US |
dc.subject | งานวิจัย | en_US |
dc.subject | มหาวิทยาลัยราชัฏธนบุรี | en_US |
dc.title | หลักอริยสัจ 4 กับการพัฒนาด้านการเรียนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี | en_US |
dc.title.alternative | The four noble truths and study development of the Dhonburi rajabhat students | en_US |
dc.type | Research | en_US |
Appears in Collections: | Research Dhonburi Rajabhat University - งานวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Title.pdf | ปก | 390.86 kB | Adobe PDF | View/Open |
Abstract.pdf | บทคัดย่อ | 393.97 kB | Adobe PDF | View/Open |
Table of contents.pdf | สารบัญ | 1.12 MB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 1.pdf | บทที่ 1 | 816.65 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 2.pdf | บทที่ 2 | 8.51 MB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 3.pdf | บทที่ 3 | 873.72 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 4.pdf | บทที่ 4 | 9.98 MB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 5.pdf | บทที่ 5 | 3.57 MB | Adobe PDF | View/Open |
Bib.pdf | บรรณานุกรม | 245.66 kB | Adobe PDF | View/Open |
Appendix.pdf | ภาคผนวก | 3.9 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.