ความคิดเห็นของญาติธรรมหรือผู้ทำบุญที่มีต่อการบริหารจัดการวัดตามหลักธรรมาภิบาลของวัดถ้ำเขียว ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความคิดเห็นของญาติธรรมหรือผู้ทำบุญที่มีต่อการบริหารจัดการวัดตามหลักธรรมาภิบาลของวัดถำเขาเขียว ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดาญจนบุรี แลเพื่อเปรีบบเทียบความคิดเห็นที่มีต่อการบริหารจัดการวัดตามหลักธรรมาภิบาลของวัดถ้ำเขาเขียว ของญาติธรรมหรือผู้ทำบุญ จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ญาติธรรมหรือผู้ทำบุญที่บริจาคทรัพย์ให้แก่ วัดถ้ำเขาเขียว ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 175 คน เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างการหาค่าเฉลี่ยโดยใช้ค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว ผลการวิจัย พบว่า ญาติธรรมหรือผู้ทำบุญ มีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการวัด ตามหลักธรรมาภิบาลในภาพรวม คะแนนเฉลี่ย อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีความคิดเห็นโดยรวมคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เฉพาะด้านหลักความรับผิดชอบ และด้านหลักความคุ้มค่าหรือหลักประสิทธิภาพประสิทธิผลมีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุด การเปรียบเทียบความคิดเห็นของญาติธรรหรือผู้ทำบุญที่มรต่อการบริหารจัดการวัดตาหลักธรรมาภิบาลของวัดถ้ำเขาเขียว จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า ญาติธรรมหรือผู้ทำยุญ ที่มีเพศ อายะ และระดับการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็นในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ดังนี้ ด้านหลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่าหรือประสิทธิภาพและประสิทธิผล ญาติธรรมหรือผู้ทำยุญ ที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็น โดยรวม แตกต่างกันอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และระดับ 0.05 ตามลำดับเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ เช่นด้านหลักนิติธรรม เช่น รายการ มีการรวมหมู่คณะญาติธรรมหรือผู้ทำบุญเพื่อทำพิธีทางศาสนาร่วมกันตามนัดหมายของวัด ญาติธรรมหรือผู้ทำบุญ ที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และด้านหลักความคุ้มค่า รายการ วัดจัดกิจกรรมพิธีต่างๆ โดยคำนึงถึงหลักประหยัดและคุ้มค่า ญาติธรรมหรือผู้ทำบุญ ที่มีอายุ และระดับการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05