ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารตามแนวทศพิธราชธรรมกับหลักอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารตามแนวทศพิธราชธรรมกับหลักอิสลามของโรงเรียนอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร 2) ระดับการบริหารตามแนวทศพิธราชธรรมกับหลักอิสลามของโรงเรียนอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวม 3) ระดับหลักอิสลามของโรงเรียนอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวม กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 210 คน ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 80 ข้อ ค่าความเชื่อมั่น 0.92 สถิติที่ใช้ได้แก่ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารตามแนวทศพิธราชธรรมกับหลักอิสลามของโรงเรียนอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับสูงค่าสหสัมพันธ์ .92 โดยพบว่า ด้านอวิโรธนะ (ความไม่ประพฤติผิดธรรม) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ ด้านอัลอะฮลา (ความสูงส่งยิ่ง) ค่าสหสัมพันธ์ .85 ด้านศีล (ความประพฤติที่ดีงาม) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ ด้านอัลอิคลาศ (ความบริสุทธิ์ไร้มลทิน) ค่าสหสัมพันธ์ .82 ด้านมัททวะ (ความอ่อนโยนทั้งกายและใจ) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับด้านอัลอิคลาศ (ความบริสุทธิ์ไร้มลทิน) ค่าสหสัมพันธ์ .79 2) ระดับการบริหารตามแนวทศพิธราชธรรมกับหลักอิสลามของโรงเรียนอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.10 โดยพบว่า ด้านศีล (ความประพฤติที่ดีงาม) ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.24 ด้านอวิโรธนะ (ความไม่ประพฤติผิดธรรม) ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.17 ด้านอาชชวะ (ความซื่อตรง) และด้านตปะ (การบำเพ็ญเพื่อให้กิเลสเบาบาง) ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.13 3) ระดับหลักอิสลาม ของโรงเรียนอิสลาม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.07 โดยพบว่า ด้านอัลอิคลาส (ความบริสุทธิ์ไร้มลทิน) ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.28 ด้านอัลมาอูน (การเกื้อกูล) ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.15 ด้านอัลนัศร (การช่วยเหลือ) ระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.10