Please use this identifier to cite or link to this item:
http://hdl.handle.net/123456789/654
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | ฤทัย, มนต์ปาริชาติ | - |
dc.contributor.author | Monparichati, Ruethai | - |
dc.date.accessioned | 2017-09-11T01:59:11Z | - |
dc.date.available | 2017-09-11T01:59:11Z | - |
dc.date.issued | 2008 | - |
dc.identifier.uri | http://cms.dru.ac.th/jspui/handle/123456789/654 | - |
dc.description.abstract | การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเจตคติและศึกษาความเข้าใจต่อภิกษุณีตามการรับรู้ของพุทธ บริษัทในชุมชนใกล้เคียงวัตรทรงธรรมกัลยาณี ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล 2 วิธี คือ วิธีการ เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ข้อมูลเชิงคุณภาพผู้ให้ข้อมูลหลักคือพระภิกษุ 5 รูป และคฤหัสถ์ที่ไปร่วมกิจกรรมที่ วัตรจำนวน 10 ท่าน ข้อมูลเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงวัตรทรงธรรม กัลยาณี 211 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ การ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหาสร้างข้อสรุป การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยการใช้ โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลสำเร็จรูป สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ร้อยละ และค่าความถี่ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการมีภิกษุณีอยู่ในปัจจุบัน เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ คิดเป็นร้อยละ 43.13 กลุ่มที่ 2 รู้สึกเห็นด้วยกับการมี ภิกษุณีอยู่ในปัจจุบัน คิดเป็นร้อยละ 36.02 และกลุ่มสุดท้ายรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการมีภิกษุณีอยู่ในปัจจุบัน คิดเป็น ร้อยละ 20.85 จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ พบว่า กลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง ภิกษุณีนั้น จากผลการวิจัยทำให้ทราบว่าปัจจัยที่ทำให้พุทธบริษัทมีความคิดเช่นนี้ เพราะว่าภิกษุณีไม่ได้มีบทบาท ที่เกี่ยวข้องกับสังคมหรือตัวของชุมชนโดยตรง การมีอยู่ของภิกษุณีอาจไม่ใช่ปัจจัยที่กระทบต่อการขับเคลื่อนทาง สังคมให้ดีขึ้นหรือต่ำลง จากมุมมองของพุทธบริษัทเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พุทธบริษัทในชุมชนใกล้เคียง วัตรทรงธรรมกัลยาณีรู้สึกเฉย ๆ กับเรื่องของภิกษุณี ในกลุ่มเจตคติที่มีความคิดเห็นรองลงมา คือกลุ่มที่เห็นด้วย จากการวิจัยพบว่าพุทธบริษัทในกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีการศึกษาดี คือมองจากสังคมเป็นหลักว่า การมีภิกษุณีเป็นการ สร้างทางเลือกใหม่ให้กับสังคมซึ่งไม่มีผลกระทบในทางลบ ทำให้พุทธบริษัทในกลุ่มนี้มีความคิดเห็นหรือเจตคติ ในเชิงบวกต่อภิกษุณี ในกลุ่มสุดท้ายที่มีเจตคติที่ไม่เห็นด้วย พบว่าเป็นพุทธบริษัทที่มีความรู้ความเข้าใจดีเกี่ยวกับ คำสอนทางพระพุทธศาสนา จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนาเป็นตัวแปร หลักที่ทำให้พุทธบริษัทในชุมชนใกล้วัตรทรงธรรมกัลยาณีมีความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยหรือมีเจตคติเชิงลบต่อ ภิกษุณี โดยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณในด้านความเข้าใจเกี่ยวกับตัวภิกษุณีจากพระไตรปิฎก ของพุทธ บริษัทในชุมชนใกล้เคียงวัตรทรงธรรมกัลยาณีนั้น จากผลการวิจัยทำให้ทราบว่าพุทธบริษัทอยู่ในเกณฑ์ขาดความ เข้าใจในเรื่องภิกษุณี | en_US |
dc.language.iso | other | en_US |
dc.publisher | Dhonburi Rajabhat University.Office of Academic Resources And Information Technology | en_US |
dc.subject | เจตคติ,พุทธศาสนา,วัดทรงธรรมกัลยาณี,วิทยานิพนธ์ | en_US |
dc.title | เจตคติและความเข้าใจของพุทธบริษัทในชุมชนใกล้เคียงวัตรทรงธรรมกัลยาณี | en_US |
dc.title.alternative | Attitudes and Understanding of Buddhists in Community Nearby Watr Songdhammakalyani About Bhikkhuni | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | Thesis Dhonburi Rajabhat University - วิทยานิพนธ์ปริญญาโท มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Title 1.pdf | ปก | 125.05 kB | Adobe PDF | View/Open |
Title 2.pdf | หน้าอนุมัติ | 73.75 kB | Adobe PDF | View/Open |
Abstract.pdf | บทคัดย่อ | 107.78 kB | Adobe PDF | View/Open |
Acknowledgements.pdf | กิตติกรรมประกาศ | 70.38 kB | Adobe PDF | View/Open |
Table of contents.pdf | สารบัญ | 147.62 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 1.pdf | บทที่ 1 | 224.96 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 2.pdf | บทที่ 2 | 655.97 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 3.pdf | บทที่ 3 | 181.84 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 4.pdf | บทที่ 4 | 396.2 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 5.pdf | บทที่ 5 | 363.49 kB | Adobe PDF | View/Open |
Bib.pdf | บรรณานุกรม | 166.44 kB | Adobe PDF | View/Open |
Appendix.pdf | ภาคผนวก | 1.01 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.