การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน : กรณีศึกษาโรงเรียนสมาคมสตรีไทย

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบทและการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนสมาคมสตรีไทย 2) เพื่อพัฒนากระบวนการบริหารงานวิชาการ 3) เพื่อประเมินผลการบริหารงานวิชาการโดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 31 คน ประกอบด้วย รองผู้อำนวยการโรงเรียนสมาคมสตรีไทย จำนวน 1 คน คณะครูโรงเรียนสมาคมสตรีไทย จำนวน 27 คน ตัวแทนผู้ปกครองจำนวน 3 คน การเก็บข้อมูลประกอบด้วยการศึกษาเอกสาร การสัมภาษณ์ การประชุมระดมความคิด การสังเกตกระบวนการทำงาน สังเกตพฤติกรรมการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูล ทีมผู้วิจัยได้นำข้อมูลทั้งหมดในแต่ละรอบมาวิเคราะห์ด้วยการประชุมระดมพลังสมอง (Brain Storming) ใช้สนามการวิจัยโดยใช้โรงเรียนสมาคมสตรีไทยเป็นกรณีศึกษา ผลการวิจัย การศึกษาบริบทและการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน พบว่า ก่อนดำเนินการวิจัยผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมทำกิจกรรมเท่าที่ควร แต่หลังจากการดำเนินการวิจัยแล้ว พบว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ โดยใช้กระบวนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม PAOR ทำให้ได้มีการพัฒนาโรงเรียนไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนผลของการบริหารงานวิชาการ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม พบว่า จากตัวชี้วัด (KPI) 15 ตัวชี้วัด สามารถดำเนินงานที่ส่งผลให้ตัวชี้วัด (KPI) ประสบความสำเร็จ 11 ตัวชี้วัด คิดเป็นร้อยละ 73.33 ตัวชี้วัดที่ประสบความสำเร็จสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ นักเรียน ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากการเรียนคอมพิวเตอร์ คิดเป็นร้อยละ 100 นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน คิดเป็นร้อยละ 100 และนักเรียนมีความรู้ในการค้นหางานทางอินเตอร์เน็ต คิดเป็นร้อยละ 100 ในส่วนที่ดำเนินการแล้วต่ำกว่าเป้าหมาย 4 ตัวชี้วัด คิดเป็นร้อยละ 26.67 ซึ่งทุกกระบวนการที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องส่งผลให้การบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพ และนักเรียนมีประสิทธิผล