Please use this identifier to cite or link to this item:
http://hdl.handle.net/123456789/1840
Title: | การบริหารจัดการภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนบางไส้ไก่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา |
Other Titles: | A management of local wisdom in Bang Sai ki community, Dhonburi District, Bangkok to be use in learning management in schools |
Authors: | นงเยาว์, อุทุมพร Utoomporn, Nongyao |
Keywords: | การบริหารจัดการ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชุมชนบางไส้ไก่เขตธนบุรี การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี |
Issue Date: | 2021 |
Publisher: | Dhonburi Rajabhat University. research and development institute . |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ในชุมชนบางไส้ไก่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนบางไส้ไก่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษา เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วย ผู้ทรงภูมิปัญญาท้องถิ่น จำนวน 6 คน ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ศึกษานิเทศก์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ และแนวคำถามสำหรับสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหาสรุปผลการวิเคราะห์จำแนกเป็นหมวดหมู่เพื่อมุ่งตอบคำถามการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า 1) ภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนบางไส้ไก่ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุ 40-60 ปีขึ้นไปมากที่สุด จบการศึกษามัธยมศึกษา สาขาที่มีภูมิปัญญามากที่สุดคือ สาขาศิลปกรรมด้านหัตถกรรม ผลงานส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมือและมีความเก่าแก่สืบทอดมารุ่นต่อรุ่น และได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ สำหรับกรรมวิธีในการผลิตก็จะไม่ซับซ้อนเน้นการผลิตที่ทำกันได้ง่ายและใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น 2) แนวทางในการนำแหล่งเรียนรู้ในชุมชนมาใช้ในการจัดการศึกษาคือควรมีหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการจัดทำข้อมูลสารสนเทศผู้ทรงภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยตรงโดยจัดทำเป็นทำเนียบภูมิปัญญาท้องถิ่น การจัดทำฐานข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นในรูปของเว็บไซต์ และการจัดทำเป็นเอกสาร สื่อสิ่งพิมพ์ วีดิทัศน์ บทเรียนออนไลน์และบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จัดงานนิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย มีงบประมาณและการติดตามประเมินผลเป็นระยะและผู้บริหารสถานศึกษาทุกระดับควรมีนโยบายส่งเสริมให้นำไปจัดทำเป็นหลักสูตรสถานศึกษา สาระเพิ่มเติม และควรมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ Youtube Facebook เป็นต้น |
URI: | http://cms.dru.ac.th/jspui/handle/123456789/1840 |
Appears in Collections: | Research Dhonburi Rajabhat University - งานวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Title.pdf | ปก | 93.43 kB | Adobe PDF | View/Open |
Abstract.pdf | บทคัดย่อ | 153.94 kB | Adobe PDF | View/Open |
Acknowledgement.pdf | กิตติกรรมประกาศ | 105.69 kB | Adobe PDF | View/Open |
Table of content.pdf | สารบัญ | 273.94 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 1.pdf | บทที่ 1 | 281.71 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 2.pdf | บทที่ 2 | 1.02 MB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 3.pdf | บทที่ 3 | 155.37 kB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 4.pdf | บทที่ 4 | 4.28 MB | Adobe PDF | View/Open |
Unit 5.pdf | บทที่ 5 | 265.12 kB | Adobe PDF | View/Open |
Bib.pdf | บรรณานุกรม | 270.07 kB | Adobe PDF | View/Open |
Appendix.pdf | ภาคผนวก | 394.64 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.