การจัดการธุรกิจบริการสถานดูแลผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการจัดการธุรกิจบริการสถานดูแลผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร 2) เปรียบเทียบการจัดการธุรกิจบริการสถานดูแลผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร ของผู้ประกอบการ จำแนกตามลักษณะประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ประกอบธุรกิจบริการสถานดูแลผู้สูงอายุ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 105 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างการหาค่าเฉลี่ยโดยใช้ค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ประกอบการมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการธุรกิจบริการสถานดูแลผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านการจัดการ 3 อันดับแรก ได้แก่ มีการควบคุมการปฏิบัติงานที่ดี มีการวางแผนงานปฏิบัติงานไว้ล่วงหน้า และมีการวางแผนเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเป็นอย่างดี ด้านการตลาด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทำเลที่ตั้งมีการคมนาคมที่สะดวกในทุกด้าน มีระบบการตลาดกับลูกค้าทางสื่ออิเลคโทรนิค และมีการแนะนำผู้ใช้บริการรายใหม่โดยผู้ที่เคยใช้บริการเดิม ด้านการจัดการการเงิน ได้แก่ มีการจัดทำบัญชีรับ-จ่าย อย่างรัดกุม ด้านบุคลากร 3 อันดับแรกได้แก่ ต้องมีทักษะความชำนาญเฉพาะ ด้านการดูแลผู้สูงอายุ สามารถสร้างขวัญกำลังใจที่ตรงกับความต้องการของพนักงาน และมีความสามารถจัดหาบุคลากรได้อย่างเพียงพอตามเกณฑ์มาตรฐาน 2) ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนระดับความสำคัญของการจัดการธุรกิจบริการสถานดูแลผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานคร จำแนกตามจำนวนเงินทุน ต่างกัน พบว่า มีความแตกต่างกันที่ระดับความมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ในเรื่องของการมีความสามารถจัดหาบุคลากรได้อย่างเพียงพอตามเกณฑ์มาตรฐาน มีเป้าหมายในการประกอบธุรกิจที่ชัดเจน มีภูมิทัศน์ อาคารสถานที่ให้ปลอดภัย สะอาด สวยงาม สงบ และสามารถจัดหาแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำได้อย่างหลากหลาย และรูปแบบความเป็นเจ้าของธุรกิจ ต่างกัน พบว่ามีความแตกต่างกันในด้านมีการวางแผนการจ่ายเงินอย่างมีประสิทธิภาพ