การบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยนี้วัคถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 2) เปรียบเทียบการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาครูผู้สอนและผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จำแนกตามเพศ อายุ วุฒิการศึกษาและสถานภาพ และ 3) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะการบริหารงานประชาสัมพันธ์ ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และผู้ปกครองนักเรียน รวม 270 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเรื่องการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้สถิติทดสอบที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและผู้ปกครอง ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการกำหนดนโยบายการประชาสัมพันธ์ ด้านการจัดองค์การการประชาสัมพันธ์ ด้านการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรในการประชาสัมพันธ์ และด้านการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ พบว่า มีการดำเนินงานโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีการดำเนินการในระดับปานกลางทุกด้าน 2) เปรียบเทียบการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตราษฏร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอนและผู้ปกครอง จำแนกตามเพศ ได้แก่ เพศชาย เพศหญิง อายุ ได้แก่ ไม่เกิน 35 ปี ตั้งแต่ 35-45 ปี 46 ปีขึ้นไป วุฒิการศึกษา ได้แก่ ต่ำกว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี และสถานภาพ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครอง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีเพศ อายุ และวุฒิการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานประชาสัมพันธ์ โดยรวมและในแต่ละด้านไม่แตกต่างกัน ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีสถานภาพต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานประชาสัมพันธ์โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน ด้านการจัดองค์การการประชาสัมพันธ์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ปัญหาที่พบได้แก่ นโยบายการประชาสัมพันธ์โรงเรียนมีการดำเนินงานเป็นแบบราชการ ยังไม่มีภาพของความทันสมัย ทำตามกรอบหน้าที่และขาดความเป็นเอกภาพ และข้อเสนอแนะคือโรงเรียนควรมีการสร้างพันธมิตรและเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในภายนอกโรงเรียน