พฤติกรรมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ

Abstract

งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาว่าปัจจัยส่วนบุคคลที่เเตกต่างกันจะส่งผลต่อพฤติกรรมการปฏิบัติงานของตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เเละ 2) เพื่อศึกษาว่าปัจจัยทางจิตจะสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการปฏิบัติงานของตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคั้งนี้ คือ ข้าราชการตำรวจระดับชั้นสัญญาบัตรเเละระดับชั้นประทวน ในสังกัดงาน 3 เเละงาน 4 กองกำกับการ 1 กองตำรวจสันติบาล 2 สำนักงานตำรวจสันติบาล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อารักขารัษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญชาวไทยเเละบุคคลสำคัญชาวต่างประเทศ มีจำนวนทั้งสิ้น 150 นาย โดยคิดเป็นร้อยละ 100 ของประชากรทั้งหมด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครัั้งนี้ คือ เเบบสอบถามซึ่งเเบบออกเป็น 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 เป็น คำถามที่เกี่ยวกับลักษณะทั่วไปของผู้ตอบเเบบสอบถาม ได้เเก่ อายุ ระดับการศึกษา อายุงานปัจจุบัน ตอนที่ 2 เป็นเเบบวัดเจตคติต่อการทำงานของตำรวจอารักขอรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ตอนที่ 3 เป็นเเบบวัดเกี่ยวกับอิทธิบาท 4 เเละ ตอนที่ 4 เเบบวัดพฤติกรรมการปฏิบัติงานของตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การวิเคราะห์ข้อมูล นำเเบบสอบถามที่ได้รับทั้งหมดมาตรวจสอบความสมบูรณ์ของเเบบสอบถามเเละนำไปวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรเเกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์หรือ SPSS สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้เเก่ ค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) t-test เเละ F-test ในการวิเคราะห์ความเเปรปรวนเเบบทางเดียว (one way analysis of variance) เเละทำการทดสอบความเเตกต่างระหว่างเเต่ละกลุ่มด้วยวิธี LSD เเละสหสัมพันธ์ (correlation coefficient) ของเพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่มีอายุต่างกันมีพฤติกรรมการปฏิบัติงานต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.5 2) ตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีพฤติกรรมการปฏิบัติงานต่างกัน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 3) ตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญที่มีอายุงานต่างกันมีพฤติกรรมการปฏิบัติงานต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.5 4) เจตคติต่อการทำงานเเละอิทธิบาท 4 ของตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการปฏิบัติงานของตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.5 ข้อเสนอเเนะ 1) ศึกษาเิ่มเติมในตัวเเปรที่อาจส่งผลต่อการปฏิบัติงาน เช่น บรรยากาศองค์การ เเรงจูงใจในการทำงาน 2) ศึกษาขยายผลที่ได้เพิ่มเติมในเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก 3) ศึกษาวิจัยเชิงทดลองเพื่อสร้างเเบบฝึกอบรมเเก่ตำรวจอารักขารักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ โดยการพัฒนาอิทธิบาท 4 เเละ เจตคติต่อการทำงาน เเละ 4) ศึกษาเพิ่มเติมในระดับนโยบายเพื่อปรับปรุง พัฒนาการทำงาน เช่น การปรับอัตราใหม่ การทำงานของระดับปฏิบัติ