Please use this identifier to cite or link to this item:
http://hdl.handle.net/123456789/140| Title: | ทักษะการเล่นไวโอลินและเจตคติต่อการเรียนไวโอลิน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี ที่เรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติและวิธีการสอนแบบสาธิต |
| Other Titles: | Violin Skills and Attitude toward Learning Violin of Grade 4 Student, Sarasas Witade Thonburi School Learned by Role-Playing and Demonstration Methods |
| Authors: | ภัทริศ, ทรัพย์สุนทร Subsoontorn, Pattharis |
| Keywords: | ไวโอลิน - การเล่น เครื่องดนตรีสากล |
| Issue Date: | 2015 |
| Publisher: | Dhonburi Rajabhat University. Office of Academic Resources And Information Technology |
| Abstract: | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะการเล่นไวโอลินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี ที่เรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติและวิธีการสอนแบบสาธิต 2) เปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนไวโอลินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี ที่เรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติและวิธีการสอนแบบสาธิต 3) เปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนไวโอลินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี ที่เรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เปรียบเทียบเจตคติต่อการเรียนไวโอลินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี ที่เรียนรู้โดยวิธีการสอนแบบสาธิต ก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี จำนวน 2 ห้องเรียน รวม 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยบทเรียนทักษะการเล่นไวโอลิน แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดทักษะ การเล่นไวโอลิน แบบวัดเจตคติต่อการเรียนไวโอลิน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยใช้สถิติทดสอบที ผลการวิจัย พบว่า 1) ทักษะการเล่นไวโอลินของนักเรียนที่เรียนโดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติสูงกว่าวิธีการสอนแบบสาธิต อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) เจตคติต่อการเรียนไวโอลินโดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติสูงกว่าวิธีการสอนแบบสาธิต อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) เจตคติต่อการเรียนไวโอลินโดยวิธีการสอนแบบบทบาทสมมุติหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4)เจตคติต่อการเรียนไวโอลินโดยวิธีการสอนแบบสาธิตก่อนเรียนและหลังเรียน ไม่ต่างกัน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
| URI: | http://cms.dru.ac.th/jspui/handle/123456789/140 |
| Appears in Collections: | Thesis Dhonburi Rajabhat University - วิทยานิพนธ์ปริญญาโท มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| title 1.pdf | ปก | 116.5 kB | Adobe PDF | View/Open |
| title 2.pdf | หน้าอนุมัติ | 66.87 kB | Adobe PDF | View/Open |
| abstract.pdf | บทคัดย่อ | 100.1 kB | Adobe PDF | View/Open |
| acknowledgements.pdf | กิตติกรรมประกาศ | 71.67 kB | Adobe PDF | View/Open |
| table of contents.pdf | สารบัญ | 95.57 kB | Adobe PDF | View/Open |
| unit 1.pdf | บทที่ 1 | 269.15 kB | Adobe PDF | View/Open |
| unit 2.pdf | บทที่ 2 | 802.19 kB | Adobe PDF | View/Open |
| unit 3.pdf | บทที่ 3 | 145.56 kB | Adobe PDF | View/Open |
| unit 4.pdf | บทที่ 4 | 111.72 kB | Adobe PDF | View/Open |
| unit 5.pdf | บทที่ 5 | 147.1 kB | Adobe PDF | View/Open |
| bib.pdf | บรรณานุกรม | 145.42 kB | Adobe PDF | View/Open |
| appendix.pdf | ภาคผนวก | 832.93 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.