การเปรียบเทียบความสามารถในการอ่าน และเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษโดยการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL - Plus) กับการจัดการเรียนรู้ตามคู่มือครูของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสารสาสน์สมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษก่อน และหลังเรียนของนักเรียนโดยการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) 2) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ ด้วยวิธี เคดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) กับการจัดการเรียนรู้ตามคู่มือครู 3) เปรียบเทียบเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อนและหลังเรียน โดยการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสารสาสน์สมุทรสาร จังหวัดสมุทรปราการ จากการสุ่มแบบกลุ่ม โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอลพลัส (KWL-Plus) 2) แบบทดสอบวัดความความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษ 3) แบบวัดเจตคตินักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบ เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) มีความสามารถทางการอ่านภาษา อังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) มีความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ตามคู่มือครู อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธี เค ดับเบิลยู แอล พลัส (KWL-Plus) มีเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05