ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ในพื้นที่ย่านธนบุรี กรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะส่วนบุคคลที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติ สำหรับยานยนต์ (NGV) และ ศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ใน พื้นที่ย่านธนบุรี กรุงเทพมหานคร ข้อมูลที่ใช้ได้จากการเก็บตัวอย่างโดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ขนาดตัวอย่างมี จำนวน 250 คน ค่าสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ ค่าที การทดสอบค่าเอฟ และการทดสอบสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษา (1) ผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์เป็นเชื้อเพลิงส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มากกว่าเพศหญิง อายุ 31 – 40 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพเป็นพนักงานบริษัท รายได้ต่อเดือน 20,001 - 30,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง รถยนต์ติดตั้งเครื่องยนต์เชื้อเพลิงสองระบบ (Bi - Fuel) มากที่สุด รถยนต์ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งาน 1 ปี (2) ความคิดเห็นของผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เกี่ยวกับปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ในพื้นที่ย่านธนบุรี กรุงเทพมหานคร พบว่า ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ในภาพรวมอยู่ ในระดับมาก คือ ด้านผลิตภัณฑ์ (อุปกรณ์ที่ติดตั้งมีคุณภาพและได้มาตรฐาน) และด้านราคา (ราคาถูกกว่าน้ำมัน เชื้อเพลิง) (3) ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลทั่วไปที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ พบว่า ผู้ใช้รถยนต์ที่มีเพศแตกต่างกันมีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ในด้านระยะทาง และ ด้านจำนวนครั้งที่เติมต่อสัปดาห์แตกต่างกันอย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และพบว่าผู้ใช้รถยนต์ที่มีอายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ต่อเดือน และประเภทของรถยนต์แตกต่างกันมีผลต่อการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติ สำหรับยานยนต์ไม่แตกต่างกัน อย่างมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และ (4) ผลการทดสอบความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยทางการตลาดกับการตัดสินใจใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ พบว่า ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์มี ความสัมพันธ์กับ ด้านระยะทาง และด้านจำนวนครั้งที่เติมต่อสัปดาห์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ปัจจัย ด้านราคามีความสัมพันธ์กับด้านจำนวนครั้งที่เติมต่อสัปดาห์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ปัจจัยด้านช่อง ทางการจัดจำหน่ายมีความสัมพันธ์กับด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ปัจจัยด้านการส่งเสริม การตลาดมีความสัมพันธ์กับด้านราคาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01